html เบื้องต้น html (ทำตัวอักษรชนิดต่างๆ)

html เบื้องต้น (ทำตัวอักษรชนิดต่างๆ)

1. การทำตัวอักษร วิ่งจากขวาไปซ้าย =  

•  <marquee direction="left">ข้อความวิ่งจากขวาไปซ้าย</marquee>

2. การทำตัวอักษร วิ่งจากซ้ายไปขวา =  

• <marquee direction="right">ข้อความวิ่งจากซ้ายไปขวา</marquee> 

3. การทำตัวอักษร วิ่งจากล่างขึ้นบน=  

•  <marquee direction="up">ข้อความวิ่งจากล่างขึ้นบน</marquee>

 4. การทำตัวอักษร วิ่งจากบนไปล่าง =  

• <marquee direction="down">ข้อความวิ่งจากบนลงล่าง</marquee> 

5. ข้อความวิ่งไปวิ่งมา =   

•      <marquee behavior="alternate">และแท็กปิดคือ</marquee>ข้อความที่เริ่มวิ่งจากซ้ายมาขวา พอถึงขวาก็วิ่งไปทางซ้าย วิ่งไป วิ่งมาสลับกัน ไม่มีที่สิ้นสุด

     <marquee behavior="alternate">ข้อความวิ่งไป<marquee>

6. ข้อความวิ่งและมีพื้นที่สีหลัง

•       <marquee bgcolor="#A9E0B8" direction="lefe" scrollamount="5"  width="50%">สีพื้นหลังเป็นสีไข่อ่อน ข้อความวิ่งไปทางซ้าย ความเร็วในการวิ่ง 5 
        ใช้ขอบเขตครึ่งหน้ากระดาษ
        </marquee>
  

 7. ทำรูปภาพวิ่ง
 

• <marquee direction="left"><img src="ชื่อรูป.สกุลรูป"></marquee>

สอน html เบื้องต้น

ยินดีต้อนรับสู่แม่บ้านไอที ไอทีแม่บ้านจ้า ยินดีต้อนรับสมาชิกแก้งค์"นางฟ้าแหวกฟ้าหาปัว"

คอมเบื้องต้น สำหรับคนไม่มีพื้นฐานค่ะ

คอมเบื้องต้น สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน

1. เปิดปิดคอม

• กดปุ่ม เปิด-ปิด
• ดูไฟที่ตัวเครื่อง ที่เมาส์

2. ปิดเครื่อง

• ปิดไฟล์งานทุกงานที่เราทำค้างไว้
• คลิ๊กปิดที่ ตัว x ขวามือด้านบน
• คลิ๊กปุ่ม start (ซ้ายมือด้านล่าง)
• คลิ๊กปุ่ม shut down

3. ใช้เมาส์กด 1 ครั้ง

•  เอาเมาส์ไปวางตรงจุดที่ต้องการ
• กดปุ่มขวามือ 1 ครั้ง

4.  ใช้เมาส์กด 2 ครั้ง

• กด 2 x ครั้งติดๆ กัน (เปิดไฟล์ต่างในโปรแกรมเช่น Excel)

5. ลากเมาส์เพื่อก๊อปปี้ไฟล์

• ลากเมาส์คุมข้อความที่ต้องการ
• เอาไปวางไว้บริเวณที่ต้องการ

6. คีย์บอร์ด

• Esc = ยกเลิกหรือออกจากโปรแกรมที่ทำอยู่
• Tab = กดเพื่อให้มีระยะห่าง และไปยังระยะที่เรากำหนดไว้
• Cap Lock = เปลี่ยนภาษาไทยที่อยู่บนปุ่มทั้งหมด หรือเขียนภาษาอังกฏษด้วยตัวใหญ่ทั้งหมด
• Space Bar=เว้น หรือ เคาะช่องระหว่างตัวหนังสือหรือระหว่างคำ
• Alternate (Alt) F=ค้นหาข้อมูล
• Alternate (Alt) X=ออกจากโปรแกรม
• Control (Ctrl) = 
• Shift=พิมพ์ตัวอักษรภาษาไทยด้านบ้านหรือภาษาอังกฤษตัวใหญ่
• Enter=ขึ้นบรรทัดใหม่
• Backspace=กดเพื่อทำช่องไฟ หรือลบตัวอักษร

รายละเอียดร้านค้า

รายละเอียดร้านค้า

ถาม-ตอบ

1. ขายอะไร เปิดร้านอะไรดี

• จะขายอะไร ให้ศึกษาให้ดีก่อน หาสินค้าขายง่าย ขายคล่อง ไม่เสียเงินมาตุนมาดอง
• คนขายต้องชอบและสนใจด้วย
• คอยอัพเดทข้อมูลสินค้า

2. รายละเอียดสินค้า

• ชื่อสินค้า
• รหัส
• สัดส่วน/วิธี/น้ำหนัก
• ราคา
• รีวิว

 3. เตรียมรายละเอียดการติดต่อของร้าน

• ชื่อร้าน
• ชื่อคนติดต่อ
• เบอร์โทร. ร้าน เบอร์มือถือ 
• อีเมล์ เฟสบุก เพจ ไลน์
• เปิดบัญชีออนไลน์ เปิดบัญชีแจ้งเตือนยอดถอน/โอนเงินทางโทรศัพท์

4.   แนะนำ

• ทำร้านค้าให้เป็นที่รู้จัก (SEO)
• ให้ข้อมูลลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
• รักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มลูกค้าใหม่
• หมั่นสังเกตุพฤติกรรมของลูกค้า
• หมั่นดูร้านค้าออนไลน์ที่มีสินค้าหรือบริการที่เหมือนกัน
• หมั่นอัพเดทข้อมูลการข่าวสาร
• ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย
• รู้ความต้องการลูกค้าทั้งก่อนซื้อ ระหว่างซื้อ และหลังซื้อ
• มีความสำพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พูดคุย ให้คำปรึกษากับลูกค้าอย่างรวดเร็ว ทันใจ และเป็นกันเอง
• ในกรณีที่ถูกต่อว่า ควรรีบติต่อลูกค้ากลับทางอินบ็อกซ์ ห้ามติดต่อกลางเฟซ หรือเพจ เพราะจะสร้างความวุ่นวายอย่างต่อนเนื่อง
• ใช้ช่องทางการแชทให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
• ขายของคุณภาพ บริการด้วยใจ หมั่นดูแลและตรวจสอบร้านค้า
• รับผิดชอบหากลูกค้าไม่พอใจในตัวสินค้า
• ควรระบุข้อตกลงกับลูกค้าให้ชัดเจน ทั้งก่อนซื้อและหลังซื้อ

          ขอให้คิดเสียว่า ร้านค้าคือลูกของคุณอีกคนนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ถ่ายรูปสินค้าอย่างไงให้ขายได้

ถ่ายรูปสินค้าอย่างไงให้ขายได้

1. เลือกกล้อง

• งบสูง เลือกสัก 1-2 หมื่น ใช้ได้นาน (เหมาะสำหรับถ่ายภาพสินค้าที่มีราคาสูง)
• งบน้อย 3-4,000 (มือใหม่)
• ความละเอียดของกล้องควรเริ่มต้นที่ 3 ล้านพิกเซลล์
• เลือกกล้องที่มีคุณสมบัติด้านไมโคร (Macro Focus) เพราะจะสามารถถ่ายรูปรูปได้ชัดเจน มีมิติ
• จัดฉากและแสง ใช้อุปกรณ์ช่วย (ตามรูปด้านล่าง)

2. ถ่ายรูปสินค้าอย่างไงให้ขายของได้

• ถ่ายรูปสินค้าให้ดูสะดุดตา ถ่ายอย่างไงให้ลูกค้าประทับใจในตัวสินค้าตั้งแต่เว๊บแรก
• จัดฉากประกอบ
• ถ่ายสินค้าจากของจริง
• ถ่ายให้ชัดเจน ทุกมุม ด้านใน ด้านนอก เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจในการเลือก
• ใช้กล้อง 2-3 ล้านพิกเซล ถ้าถ่ายสินค้าพวกเครื่องประดับ ควรเป็นกล้องที่มีคุณภาพสูง
• หลังฉากควรเป็นสีขาว 
• หากสินค้าเป็นสีขาว ควรใช้หลังฉากสีเข้ม
• ลดขนาดไฟล์ให้มีขนาดเล็ก เพื่อจะได้แสดงรูปที่หน้าจอเร็วขึ้น
• ปรับความชัดของรูปในโปรแกรม Photoshop/Photoscape
• สร้างลายน้ำ ชื่อร้านค้าและเบอร์โทร์ ข้อมูลการติดต่อ

3. สตูดิโอ

• Photo Cube = กล่อง 4 เหลี่ยมสีขาว หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ถ่ายรูปหรือใน E-Bay ค่ะ
• Riser Set = ฐานรอง ทำจากอครีลิค มีความเงา ใช้ถ่ายกับสินค้าเช่นพวกจิวเวอรี่
• ขากล้อง = กันมือสั่น เวลาถ่ายภาพ
• โคมไฟ = เพิ่มไฟ (โคมไฟ สามารถหาแบบง่ายๆ แต่ใช้ง่านได้ที่ที่โลตัสหรือบิ๊กซี - ใช้โคมไฟเขียนหนังสือแทนได้นะคะ)

Photo Cube : ปรกติหาซื้อได้จากร้านขายส่งอุปกรณ์ถ่ายรูปทั่วไป แต่หากอยากได้ราคาพิศษ ควรสั่งในเว็บอีเบย์ หรือตามเว็บขายอุปกรณ์การถ่ายรูปทั่วไปค่ะ

ไอทีแม่บ้าน
IT Meaban

คอร์สอบรมไอทีแม่บ้าน

เปิดร้านค้าออนไลน์ ข้อดีข้อเสียอย่างไร

เปิดร้านค้าออนไลน์

1. เปิดร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์

• มีกิจการเป็นของตัวเอง = ไม่เป็นลูกจ้างใครเลือกสินค้าอะไรมาขายก็ได้
• รายได้เสริม = ซื้อขายง่ายผ่านอินเตอร์เน็ต
• ค่าใช้จ่ายน้อย = ไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเดินทาง
• ไม่ต้องจ้างใคร = พนักงานไม่ต้อง เราทำเอง
• ขายได้ทุกที่ ทุกเวลา = ขายได้ทั้งในและต่างประเทศ
• ร้านค้าเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง = แข่งกับร้าน 7-11 ซะเลย
• มีเวลามากมาย = เว็บไปทำอย่างอื่นได้สบาย
• ความเสี่ยงน้อย = ลงทุนได้มาก น้อยได้เท่าที่เราต้องการ
• ชำระเงิน=ชำระได้หลายช่องทาง ง่ายและรวดเร็ว
• ลูกค้าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา=ลูกค้าตัดสินใจง่ายที่จะซื้อผ่านหน้าเว็บ
• คอยติดตามอย่างไกล้ชิด =สามารถเฝ้าดูการเจริญเติบโต ทะนุถนอมผลงานของเราให้กลายเป็นธุรกิจที่เลี้ยงดูเราและครอบครัวได้
• มีมูลค่าทางธุรกิจและทางด้านจิตใจ= ที่เราจะชื่นใจต่อผลงานตัวเองที่สร้างมากับมือ
• ช่องทางทำมาหากินแบบใหม่ โดยที่เราแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

2. เปิดร้านอย่างไง

• ทำอย่งไง
• เริ่มต้นอย่างไง
• ไม่เก่งภาษา หน้าจอมีแต่ภาษาอังกฟษ
• ไม่เก่งคอม เปิดคอมยังไม่ได้เลย
• เว็บไซด์ไม่รู้เรื่อง
• ทำอย่างไงให้มีคนเข้าเว็บเยอะๆ และซื้อของเรา
• กว่าจะเป็น ใช้เวลาและใช้เงินเท่าไร

3. ทำความเข้าใจก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ

• งานขายของเป็นได้ทั้งงานอดิเรกและงานหลัก
• ใช้แรงไม่มาก แต่ได้เงินเข้ากระเป๋าเรื่อย
• ฉีกออกจากระบบค้าขายแบบเดิมๆ ที่เราต้องไปหาลูกค้า ไปพบลูกค้า เอาของไปวางขายตามที่ต่างๆ
• อินเตอร์เน็ต เว็บไซด์ เฟสบุก สามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้
• ได้เงินมากหรือน้อย ขึ้นอยุู่กับความขยันและความสามารถ
• แบ่งเวลาในการทำงานในแต่ละอย่าง แต่ละขั้นตอน

4. ข้อดีในการทำตลาดออนไลน์

• ต้นทุนต่ำ
• ติดต่อกับลูกค้าง่ายโดยอุปกรณ์ที่เรามีอยู่
• ทำคนเดียว
• ลูกค้าตัดสินใจง่าย ไม่ต้องเดินทาง เห็นรูปก็ตัดสินใจซื้อได้เลย
• เปิดขายตลอดเวลา
• ของไม่หาย ไม่มีค่าเช่า ไม่ต้องเฝ้าร้าน

5. ข้อเสีย

• แข่งขันกันสูง ตัดราคากันเอง
• ต้องสร้างภาพลักณ์ที่ดีก่อนถึงขายได้
• ร้านค้าไม่ติดอันดับในกูเกิ้ล ค้นหาอย่างไงก็ไม่เจอ
• ทำเว็บเองไม่เป็น ก็ต้องจ้างคนทำ ทำ Seo เองไม่ได้ ก็ต้องจ้างคนช่วย
• อาจถูกแฮ็ก สแปม ร้านอาจถูกระบบสั่งปิดโดยไม่รู้ตัว
• ขาดระบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ
• ไม่มีกฎหมายคุ้มครองร้านค้าออนไลน์
• สินค้าจับต้องไม่ได้ ลูกค้าอาจะไม่พอใจเมื่อเห็นของจริง บางครั้งอาจถูกโจมตี
• การจัดส่งใช้เวลาหลายวัน

Page

Page

1. Page

• เหมาะสำหรับทำธุรกิจ
• ชื่อเพจ สั้้น จำง่าย ชัดเจน
• ใส่โลโก้บนรูปภาพด้วย
• ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท (พื้นฐานเกี่ยวกับหน้าเพจ และหน้าเพจ)
• อีเมล์กลุ่มสมาชิก

2. สร้างร้านค้า

• www.facebook.com/pages/create.php

3. นำเพจที่สร้างพ่วงกับ Twitter

• จัดการหน้าเพจ
• Connect to Twitter
• Link a page to twitter
• Link to Twitter
• กรอก Username or Email และ Password ของ Twitter และ allow
• เลือก app
• Save Changes

4. เพิ่มแท็บให้กับเพจ

• พิมพ์ FBML
• Add to my Page
• Add to Page ...
• Close
• http://developers.facebook.com
• Edit Page
• Go to Application
• HTML
• Save Change 

5. Facebook Insights/ดูสถิติผู้เข้าชม

• จำนวน Like 
• แยกเป็นวันและเดือน
• ยอด Like ทั้งหมด

6. Demographic/ข้อมูลประชากร

•  แยกตามเพศ
• ประเทศ
• เมือง
• ภาษา
• อายุ

7. Activity กิจกรรม

• คนเข้ามากี่ครั้ง
• ดูอะไร
• ข้อมูลอะไร

8. Interactions/ปฏิสัมพันธ์

•  โพสต์แต่ละโพสต์มีคนไลท์และไม่ไลท์จำนวนเท่าไร โพสต์อะไร

 9. เพิ่มผู้ดูแล

• แก้ไขเพจ
• จัดการบทบาทผู้ดูแล (บทบาทเพจ)
• พิมพ์ชื่อหรืออีเมล์
• บันทึก 

Promote Website โปรโมทเว็บไซด์อย่างไรดี

Promote Website

โปรโมทเว็บไซด์อย่างไร

1. โปรโทม Website

• เปิดแผงขายตามเว็บบอร์ดฟรีต่างๆ 
• แลกลิงค์ Link Building
• ลงทะเบียนกับ Search Engine

2. แนะนำตัวกับ Search Engine ต่าง

• Google
• http://www.google.com/addurl

3. วิธีทำ

• กรอกข้อมูล URL ของโดเมนของเรา : www.Japanjah.com
• กรอกรหัส
• ตรวจข้อมูล
• กด Add URL

4. ดูข้อมูล

• Site://http://www.Japanjah.com
• คำสั่งนี้จะแสดงจำนวนเวบที่ถูกเก็บไว้ในระบบ Google

2. Search Engine

• www.Google.com = http://www.google.com/addur
• www.google.com=http://www.google.com/addurl/
• www.bing.com=http://www.bing.com/docs/submit.aspx
• www.siteexplore.com=http://siteexplorer.search.yahoo.com/submit
• www.msn.com=http://search.msn.com.sg/docs/submit.aspx

• www.aesop.com = http://www.aesop.com/cgi-bin/sub/submiturl.cgi
• www.alexa.com = http://www.alexa.com/data/details/editor?type=rl&p=Corp_W_t40_L1
• www.entireweb.com = http://www.entireweb.com/express_inclusion
• www.jayde.com =http://submit2.jayde.com
• www.scrubtheweb.com=http://www.scrubtheweb.com/addurl.html
• www.alltheweb.com=http://alltheweb.com/help/webmaster/submit_site
• www.altavista.com=http://addurl.altavista.com/addurl/defaul

3. Directory Submission ลงสารบันหมวดหมู่

• เพิ่มรายชื่อตัวเองในสารบันหมวดหมู่ เหมือนสมุดหน้าเหลือง
• เพิ่มให้ตรงกับหมวดหมู
• ไม่เป็นเว็บโป้

4. วิธีลง

• http://webindex.sanook.com
• เพิ่มรายชื่อ
• ยอมรับเงื่อนไข
• กรอกข้อมูลสำหรับการสร้างสารบันเว็บไซด์ Sanook.com
• ใส่ URL
• ใส่โฮมเพจ : Title
• คำบรรยาย : Description
• กรอก Tag ที่ต้องการแสดงหน้าเว็บ 
• Keyword (ใส่เครื่องหมาย, ใส่เครื่องหมายคั้นระหว่างคำ, หรือคีย์เวิร์ด)
• Category : หมวดหมู่หลักและย่อย
• ชื่อผู้กรอก และอีเมล
• ส่งข้อมูล 

  5. รายชื่อสารบันเว็บไซด์แนะนำ

• www.dmoz.org
• www.webindex.sanook.com
• www.hunsa.com=http://webdir.hunsa.com/reg.php
• www.212cafe.com=http://webindex.212cafe.com
• www.narak.com=http://webindex.narak.com/addurl.shtml
• www.deedeejang.com=http://link.deedeejang.com
• www.yoye.com=http://www.yoye.com/url/post.html  

• http://webindex.sanook.com/addweb/
• http://webindex.kapook.com/addweb.php
• http://truehits.net/
• http://www.pantip.com (รวม Link)

4. เข้าบล๊อกคอมเมนท์ต่างๆ กระดานสนทนา Forums & Web Board

• สร้างลิงค์มาสู่เว็บไซด์ของเรา 

5. ชื่อหัวเรื่องเว็บไซด์ต้องโดนด้วย

• SEO ชอบมาก
• เนื้อหาไปในทางเดียวกัน
• ฟอนต์ ใหญ่ หนา มีสี BOLD
• อ่านแล้ว รู้ถึงเนื้อหา

6. บทความต้องเป็นหมวดหมู่

• มีหมวดหลัก หมวดย่อย

7. แทรกคีย์เวิร์ดทุกหน้าเพจ

• แทรกให้เนียน

8. แปะลิงค์ไว้ที่ท้ายเพจ

• แปะลิงค์ให้เชื่อมไปหน้าอื่นภายในเว็บเรา

9.ห้าม

• ห้ามปั่น Keyword แบบไม่เนียน

10. แสดงเนื้อหาสั้นๆ ในเพจแรก

• คัดกรองเนื้อหาที่เป็นจุดขายของเว็บไซด์
• เขียนคำว่า Read more

 11.  รูปภาพ

• เขียนคำอธิบายไว้ที่รูปภาพ

12. ลิงค์

• แทรกลิงค์ไว้ในบทความพร้อมใส่คำอธิบายของลิงค์

13. หมั่นอัพเดท

• อัพเดทให้มีข้อมูลใหม่ตลอดเวลา

14. ลงทะเบียนเว็บกับ Google

• เข้า http://www.google.com/addurl.html
• กรอกชื่อเว็บไซด์ของเรา
• ส่งคำขอ

1. โดเมน

• .com, .net, .co.th., in.th., .org
• ทำหน้าที่คล้ายๆ นามสกุล

2. .com, .co.th,.biz

• บริษัท ร้านค้า

3. .org., or.th

• ไม่แสวงหาผลกำไร

4. .info

• ข่าวสาร ไม่หาผลกำไร

5. net

• ถ้า .com ไม่ว่าง ใช้ .net แทนได้

6. .ac.th

• โรงเรียน

7. .go.th

เว็บไซด์รัฐบาลของไทย

เลือกนามสกุลให้ตรงกับเว็บไซด์ ซึ่งส่วนมากใช้ .com หรือ .net กันค่ะ

Google แพนด้าและเพนเกวิน

Google แพนด้าและแพนเกวิน ทำหน้าที่คัดกรองเว็บไซด์ที่ดีและมีคุณภาพ

1. Google แพนด้า

• มีหน้าที่คัดกรองเว็บไซด์ที่มีเนื้อหาที่ดี 
• มีคนอ่านมาก
• มีคนกด Like 

2. แพนด้า เกลียด

• เว็บที่มีเนื้อหาไม่ดี
• ก็อปมาจากที่อื่น
• ขาย ads
• ติด banner
• เนื้อหาน้อย มีแต่ Keyword

3. แก้ไข แพนด้า

• ทำให้อันดับตก
• ต้องกู้เนื้อหาและสร้างใหม่ 

4. เพนกวิน

• ออกมาตรวจลิงค์ทั้งหมดที่เราสร้างขึ้นมา
• ห้ามส่ง link ที่ไม่มีคุณภาพ
• บางทีตกไปอยู่ถึงหน้า 100+++
• ลบหน้าแรกของเรา เอาหน้าอื่นขึ้นมาแทน
• บนหน้า Google อันดับจะไม่นิ่ง จะขยับไปขยับมาตลอด
• มีโอกาสโดนทั้ง แพนด้าและ เพนกวิน
• ทำให้อันดับตก

5. แก้ไขถ้าโดนแพนด้า กับเพนกวินเล่นงาน

• ยกเลิกการทำลิงค์เข้าเว็บ
• เพิ่มบทความ 
• เขียนเอง
• Keyword 2 จุด
• Keyword ไกล้เคียง 2-3 Keywords
• โพสต์ไปเรื่อยๆ
• ค่อยๆ ถอดลิงค์ วันละ 5-6 ลิงค์ ถอดมากเกินไป เด่วมันมาอีกเพราะจะโดนสงสัยว่า ลิงค์ไม่ปรกติ

Backhat SEO

Backhat SEO

Backhat SEO

1. Spam Keywords

• การใส่ Keyword ซ้ำๆ กัน เพื่อให้แมงมุมมาเก็บข้อมูล
• Keyword ที่ดีควรมีแค่ 7-10% ต่อหน้า

2. Hidden tex

• ซ่อน Keyword
• ใส่จำนวนมากและซ่อนให้เป็นสีเดียวกันกับพื้นหลัง
• ตรวจสอบโดยเอาเมาส์ลาก 

Like

Like

1. Like

• เรียกเพื่อนให้มา Like
• ลงโฆษณากับคุณมาร์ค เสียค่าใช้จ่าย
• ลงโฆษณา Google Adwords
• ส่งเมล์บอกเพื่อนและใช้ Signature

          ขอบขอบคุณ
           @MeabanIT
          www.MeabanIT.com
          www.facebook.com/meabanIT

• Share fan page ใน Social Media อื่น
• หาเพื่อนให้ช่วยแชร์ fan page
• สร้างจุดเด่น สร้างเนื้อหาดี เช่น เขียนข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า 
• หา niche market หากลุ่มที่มีความสนใจคล้ายๆ กัน
• ทำโปรโมชั่นดีๆ
• อย่า spam 

Website / Blogger /เว็บ / บล็อก

Website/Blogger

1. Website/Blogger

• สร้างแบรนด์
• สร้างความแตกต่าง สร้าง design สร้าง เอกลักษณ์
• สร้างข้อมูล
• เป็นช่องทางที่เราติดต่อลูกค้าได้

2. เขียนเว็บและบล็อกใหม่

• สร้างเนื้อหาที่เราชอบ ชอบสิ่งใด เขียนสิ่งนั้น
• เขียนเองดีที่สุด เนื้อหามีประโยชน์ ห้ามก็อปใครมา
• ในกรณีที่เราดึงข่าว ควรให้เครดิตคนเขียนด้วย
• เพิ่มลิงค์ที่มีคุณภาพสูง
• ทำลิงค์มาจาก Social ให้มากๆ เพราะจะได้คะแนนจาก Google ด้วย

3. เว็บ/บล๊อกติดอันดับจะตกได้มัย

• Google จะปรับอันดับทุก 3 เดือน 

4. ออกแบบเว็บไซด์ บล๊อก ให้โดน

• หัวเรื่อง (Heading) ต้องใหญ่และเด่น สี ฟ้อน ควรเหมือนๆ กัน
• จัดเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่
• สร้าง Keyword ไว้ทุกเพจ
• แปะลิงค์ไว้ทุกหน้า แทรกไว้ในเนื้อหา
• ใช้อักษรในรูปแบบเดียวกัน
• ใส่รูปภาพพร้อมคำอธิบายให้ครบ อธิบายรูปในขณะที่เราเอาเมาส์ไปชี้
• เลือกใช้โปรแกรมที่รองรับ seo ได้
• แทรกคียเวริดเนียน 
• อัพเดทหน้าเว็บหรือบล๊อกของเราตลอดเวลา

Statistic Iframe Tab

Statistic Iframe Tab

1. Page Source

• หน้าเวบที่ต้องการนำเข้า

2. URL

• แสดงหน้าเวบตาม URL ทั้งหน้า

3. Redirect

• กำหนดให้เบราเซอร์เปิดหน้าเว็บตาม URL ที่กรอก

4. Image

• รูปภาพ

5. HTML

• ฝังโค๊ต

6. Fan-Gate (Non-Fan Page Source)

• กำหนดที่มาของเว็บสำหรับผู้ที่ไม่ได้ร่วมเป็นแฟนเพจ
• Off = ไม่ได้ตั้งค่า
• ตั้งค่า = เลือก URL, Image หรือ HTML

7. Friend Gate

• กำหนดให้เข้าชมหน้านี้ได้ต่อเมื่อมีเพื่อนคลิก Like ในจำนวนที่กำหนด

8. From-Gate

• กำหนดให้กรอกข้อมูบก่อนรับชม

9. Tab Icon

• เปลี่ยน Icon

10. Tab name

• ชื่อ

11. Tab image

• รูปภาพ 

12. Facebook Plug in

• Like Botton
• Like Box
• Comments

13. Shopping Card

• ร้านค้าออนไลน์ในเฟสบุก

Link, ฺBack Link, Link Wheel

Link

1. Link

• ลิงค์คือประตู เราควรสร้าง Link ไว้หลายๆ ที่ๆ หลายๆ ทาง
• ลิงค์มีอยู่ตามหน้าต่างๆ และตำแหน่งต่างๆ เช่น ส่วนหัว ส่วนกลาง ส่วนซ้าย แล้วแต่คนออกแบบ
• เชื่อมโยงจากอีกที่ไปยังอีกที่ (Link Exchange)
• ภายในเว็บไซด์เดียวกัน (ลิงค์ต้นทางกับลิงค์ปลายทาง)
• ระหว่างเว็บไซด์ ลิงค์ต้นทางจากเว็บนอกแล้วชี้มาที่เว็บไซด์หรือบล็อกของเรา
• ลิงค์จากเรา ชี้ไปที่เว็บไซด์หรือบล็อกอื่นๆ ภายในนอกที่เราใช้เป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลได้
• ลิงค์ที่ดีจะเอาทั้งคนและบ๊อตเข้ามาด้วย
• ลิงค์คือ สะพานที่ให้แมงมุมไต่ไปมา 
• ถนนของโลกออนไลน์
• ไม่เน้นเว็บไซด์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเว็บไซด์ไม่มีคุณภาพ 

• ห้ามสร้างลิงค์ออกนอกเว็บหรือบล๊อก เพราะจะทำให้เว็บของเราตกอันดับ
• หมั่นสร้างลิงค์มาที่เว็บไซด์หรือบล๊อกของเรา

2. บอต/Spider

• แมงมุม
• โปรแกรมที่ช่วยมาเก็บข้อมูลของเราไปจัดอันดับใน Search Engine
• Deep Bot = ถ้าเนื้อหาดี ถึงเว็บจะเก่าหรือไม่ ก็อาจจะติดอันดับภายใน 1 เดือน
• Fresh Bot = ชอบมาเก็บข้อมูลใหม่ๆ สดๆ

3. Back Link

• ลิงค์ที่เชื่อมกลับมายังเว็บไซด์ของเรา

4. Link Wheel

• สร้างลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซด์หรือบล๊อกต่างๆให้แมงมุมมาเก็บข้อมูลเพื่อให้เราติดอันดับ SEO 

5. Link Exchange

• 2 เว็บ ทำการแลกเปลี่ยน link ให้กันและกัน
• ติดต่อพันธมิตรเพื่อขอแลกลิงค์
• ระบุไซด์ ขนาด ข้อความ
• แจ้งว่าเราจะเอาลิงค์เค้ามาวางไว้ตรงไหนของเรา เช่น หน้าเพจ

6. One Way Link

• ลิงค์ทางเดียว
• ส่งลิงค์จากเว็บหนึ่งไปยังลิงค์อีกเว็บหนึ่ง
• เว็บนั้นๆ ไม่ได้ทำการส่งลิงค์กลับ 

7. Link Building

• การสร้าง Link ให้กลับมาสู่เว็บไซด์ บล็อก หรือเพจของเรา
• เนื้อหาของเว็บไซด์ควรไกล้เคียงกัน
• หากนำภาพของเราไปใช้ ควรมีการให้เครดิต และทำลิงค์กลับมาสู่เว็บไซด์ของเราด้วย
• แต่ยากมาก ไม่มีคนทำ ต้องสร้างเอง
• ห้ามไปแลกลิ้งค์กับลิงค์ที่ผิดกฎ เช่นเว็บโป้ เว็บพนัน

Online Marketing, Internet Marketing, E-Marketing

Online Marketing, Internet Marketing, E-Marketing

1. Online Marketing

• โปรโมต ประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เนค ผ่านเว็บไซด์, อีเมล์, บล๊อก, สังคมออนไลน์, เฟสบุก, เพจ

2. Internet Marketing

• หารายได้บนอินเตอร์เนตผ่านโลกออนไลน์

3. E-Marketing

• ทำตลาดผ่านเครื่องมือต่าง เช่น คอมพิวเตอร์, มือถือ, ไอโฟน...

• การทำตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิคส์ เครื่องมือดิจิตอลเข้ามาช่วยทำการตลาด

4. Online

•  ทำการตลาดผ่านโลกออนไลน์

5. Offline

• ทำตลาดแบบเก่า ลดแหลก แจก แถม โปรชัวร์

6. ทำนามบัตรโปรโมตเว็บไซด์

• เอาไว้แจกเพื่อน สำหรับการทำตลาดแบบ off line

7. ตลาดดิจิตอล

• เก็บข้อมูลของลูกค้าได้หมด (อีเมล์, เฟสบุก)
• ไม่ต้องผ่านใคร ติดต่อกันเองได้เลย
• สำรวจลูกค้าได้ง่ายกว่า สามารถวิเคราะห์ได้ง่ายกว่า
• แบรนด์ใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ ยังไม่คิดทำ เพราะฉนั้น เราลุยเอง 
• โปรโมทสินค้าได้ง่าย โฆษณาตรงจุดเป้าหมาย ขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง
• มีระบบช่วย
• ต้นทุนสินค้าต่ำ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า
• ทำงานคนเดียวที่บ้านได้ ไม่ต้องจ้าง มีเวลาเหลือมาก 

 8. โปรโมทสินค้าที่ไหนได้บ้างและโปรโมทอย่างไร

•  Portal Website : เว็บท่า หรือ E-Market Place = เว็บที่ให้ประกาศสินค้าได้ฟรีเช่น Pantip, Sanook
• เว็บไซด์ บล๊อก และเพจหรือกลุ่มในเฟสบุก
• ห้ามเสปมโพสต์ เด่วโดนเบน
• ใส่ลิงค์เว็บของเรา
• เข้าร่วมในเว็บบอร์ดต่างๆ พร้อมทำ Signature

SEO Website/Facebook Page/เว็บไซด์/เฟสบุก เพจ

SEO Website

1. Website

• ขยันโปรโมต โฆษณาประชาสำพันธ์ ขายอะไร ซื้ออะไร
• เตรียมเนื้อหา
• คิดหัวข้อโฆษณา
• มีภาพประกอบ
• ข้อมูลการติดต่อเรา ชื่อ เบอร์โทร. เพจ เฟสบุก ไลน์ 
• หาคีย์เวริด
• โฆษณาบนเว็บไซด์ฟรีๆ
• ค้นหาคำว่า ลงโฆษณษฟรี โปรโมทเว็บไซด์ฟรี ลงประกาศฟรี
• ลงประกาศตามเว็บบอร์ดต่าง
• ศึกษากฎของเว็บบอร์ด
• ตั้งกระทู้ ใส่เนื้อหา หมั่นเข้าไปตรวจกระทู้ของตัวเอง แทรกลิงค์ในเนื้อหากระทู้
• ให้ข้อมูล
• ใส่รูปภาพและราคา บริการหลังการขาย 
• สร้างเมนูให้เป็นสัดเป็นส่วน

2. เพจขายของ หรือเว็บไซด์ไม่มีคนซื้อเลย

• หาทราฟฟิก Traffics หาคนเข้าด่วน
• 
  

Twitter

Twitter

1. Twitter

• สมัคร Twitter
• แจ้งข่าวสาร Real Time
• www.twitter.com
• แต่งโปรไฟล์ให้ติด SEO
• ภาพประจำตัว ธุรกิจ เว็บไซด์ ข้อมูลการติดต่อ
• เชื่อม Twitter กับ Facebook

2. ทวิตตอนไหน

• เปิดตัวสินค้าใหม่
• โปรโมชั่นรายเดือน
• เทคนิค 
• แนะนำ
• สิทธิพิเศษ
• เสนอข้อมูล

3. ทวิตแบบไหน

• แนบลิงค์
• แทรกภาพ
• แทรกคีย์เวิร์ด
• ทวีตบ่อยๆ สั้นๆ ได้ใจความ ทวิตได้ 140 ตัวอักษร
• ติดตามข่าวสาร
• ทวิตเรื่องที่เราสนใจ เรื่องเดียวกัน เรื่องที่เราเชี่ยวชาญ เรื่องที่คนสนใจและติดตามเราได้ กระจายข้อมูลให้ได้มากที่สุด
• ตอบคำถามหากมีคนถามอะไรเรามา
• ติด #hasting ในเรื่องราวที่ tweet เผื่อมีคนอยากมาอ่านข้อความของเรา
• จริงใจให้บริการ
• แชร์และแบ่งบันรูป

4. Follower

• รับข้อความของคุณทันที
• Retweet (RT)
• ส่งต่อไปยัง Followers ของพวกเค้าได้

5. เชื่อม Twitter กับ Facebook

• Settings
• Profie
• Connect to Facebook
• เลือกข้อมูลบัญชี Facebook
• Save Change บันทึกค่า

6. คำศัพท์ Twitter

• Tweet = การโพสต์ข้อความใน Twitter
• follower = คนที่ติดตามอ่านการโพสต์ใน Twitter
• following = คนที่เรากำลังไปติดตามอ่าน twitter ของเค้า
• @twitter = ชื่อของคนที่เราอยากคุยด้วย
• reply = ตอบกลับคนที่ที่เค้าโพสต์ เวลาเราโพสต์ตอบกลับ ควร @ชื่อคนที่เราจะตอบไปด้วย
• Re-Tweet=บอกต่อๆ กัน
• Chasting = รวบรวมเรื่องต่างๆ ไว้ด้วยกัน
• Direct Message (DM)=ส่งจดหมายหาคน twitter (รู้กันแค่ 2 คน)

7.  Tweet เข้า Facebook

• เข้า Facebook
• twitter.com/widgets
• คลิ๊ก Facebook
• install Twitter in facebook
• กรอก E-mail address และ Password
• Log in
• การติดตั้ง Widgets ใน Facebook เสร็จสมบูรณ์
• กดปุ่ม Share Link

Facebook

Facebook

1. Facebook

• คนไทยใช้มากกวา่ 6 ล้านคน ผู้หญิง 50%
• เตรียมตัวก่อนเล่น
• สร้างตัวตน
• อับเดทข้อมูลใหม่ๆ เสมอๆ
• เพิ่มเพื่อนเยอะๆ
• สร้างความสัมพันธ์ที่ดี

2. Profile

• แสดงข้อมูลประจำตัว 
• แสดงความเคลื่อนไหวของเราและเพื่อนๆ
• พูดคุย
• กด like
• สนทนาระหว่างเพื่อน 
• แชร์ข้อมูล แบ่งปันข้อมูล
• ไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ

3. Group

• สนทนาระหว่างเพื่อนที่มีความสนใจคล้ายๆ กัน

4. Page

• ใช้ทำธุรกิจ
• มีติดตามได้ไม่จำกัด
• สามารถเก็บสถิติและนำมาวิเคราะห์ข้อมูล
• มีแอพพลิเคชั่น
• สามารถแต่งหน้าเพจได้

5. สร้าง url

• www.facebook.com/username
• ใส่ชื่อ
• ยืนยัน

6. แก้ไขข้อมูล

• ข้อมูลเบื้องต้น
• ใส่รายละเอียด

7. สร้างกิจกรรม

• ป้อนข้อมูลต่างๆ
• ใส่ คีย์เวิร์ด

8. สร้างป้ายโฆษณา

• www.facebook.com/badges
• เลือกป้ายที่ต้องการ 

9. สร้างเพจบนเว็บไซด์

• Find Us On Facebook

10. โพสต์ให้เป็น

• ปั่นโพสต์ให้เป็นเวลา

11. เชื่อม Facebook กับ Twitter

• พิมพ์คำว่า Twitter บนเฟสบุก กด Enter

12. เอาหน้าเว็บไซด์มาใส่บนเฟสบุก เพจ

• Static Ifame Tab

13. แต่งเพจ

• Static Iframe Tab

14. แชร์

• แชร์ข้อมูลให้เป็น 

15. รูปหน้าเพจ

• 180 x 180 pixel

16. รูปหน้าโปรไฟล์

• 160 x 160 pixel

17. ภาพปก

• 850 x 315 pixel 

18. แท๊กชื่อเพื่อน

• ข้อความและภาพจะไปขึ้นที่หน้าจอของเพื่อน
• เข้าไปในรูปภาพ
• Tag This Photo
• คลิกตำแหน่ง
• พิมพ์ชื่อเพื่อน
• คลิ๊กปุ่มแท๊ก
• Done Tagging
• ลบแท็ก/remove แท๊ก

19. แท๊กสถานะ ข้อความไปอยู่บนหน้าคุณและเพื่อน

• Profile
• @ชื่อเพื่อน
• คลิ๊กชื่อเพื่อน
• พิมพ์
• Share

20. สร้างอัลบั้มเพื่อขายของพร้อมคีย์เวิร์ดชื่อ

• สร้างอัลบั้ม

21. สร้างกิจกรรม

• create an Event 

22. เปลี่ยนชื่อ

• กดที่มุมสามเหลี่ยม
• ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
• ทั่วไป
• แก้ไขชื่อ
• พิมพ์ชื่อลงไปแทนชื่อเก่า
• บันทึกการเปลี่ยนแปลง
• ใส่รหัสเฟสบุก 

23. เชื่อม link เข้าเว็บไซด์

• เชื่อมจาก Timeline 
• เชื่อมกลุ่ม
• เชื่อมเพจ

www.blogspot.com บล๊อกเกอร์ www.blogger.com

www.blogspot.com

1. ลงทะเบียน

• สร้าง gmail
• ลงทะเบียนใช้ www.blogspot.com

2. กำหนดการตั้งค่าการใช้งาน บล๊อกเกอร์

• Sign in เข้าระบบด้วย gmail แอคเค้าท์
•  

2. ตั้งค่า

• ชื่อ, คำอธิบาย, ....
• ปรับแต่ง การออกแบบ
• เพิ่ม Gadget โปรแกรมเสริม
• แต่งคีย์เวิร์ด
• ลิงค์ กับ Facebook

3. Meta Tag

• ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซด์ของเรา

4. Meta Description Tag

• อธิบายเกี่ยวกับเว็บไซด์
• มีคีย์เวิร์ด สั้น 
• ควรมีทุกหน้า

5. Meta Keywords Tag

• คำที่ค้นหา
• ใส่ได้หลายคำ
• มีเครื่องหมาย ","

6. Metar author Tag

• ผู้เขียน

7. Meta copyright Tga

•  เจ้าของเว็บไซด์

8. Meta content Type Tag

• UTF-8

9. Meta Robots Tag

• index, follow

10. บล็อก

• เพิ่มช่องทางในการโปรโมตเว็บไซด์ ร้านค้า สินค้าและบริการของเรา
• ฟรี ง่าย รวดเร็ว 
• เผยแพร่ไดเร็ว ข้อมูลไม่สูญหาย 
• Google เก็บข้อมูล
• สนับสนุน SEO (อัพเดทเนื้อหาและเคลื่อนไหวตลอด)
• สร้างลิงค์เชื่อมโยงได้
• เชื่อมต่อ Facebook
• แทรกลูกเล่นต่างๆ ได้ด้วย Gadget
• ฟังชั่นเยอะ ช่วยเพิ่ม Traffic ได้ดีกว่าเว็บไซด์
• แยกหมวดหมู่ Catagory 
• เชื่อม Blogger เข้าเฟสบุก

11. บล๊อกเกอร์คือ

• ไดร์อารีออนไลน์
• นำเสนอเรื่องของตัวเอง อยากดัง อยากให้คนรู้จัก
• นำเสนองานเขียนของตัวเองแบบไม่ต้องลงทุน
• แบ่งปันประสบการณ์และข้อมูล แชร์ความสนใจไปยังกลุ่มคนที่สนใจเหมือนๆ กัน
• สร้างชุมชน (เจ้ สร้างบล๊อกเพื่อหาปัวหาเมียให้ชาวบ้าน)
• สามารถสร้างเนื้อหาที่ดี อัพเดทได้ตลอด

12. เพื่อทำการตลาดและโปรโมทสินค้า

• เพื่อเป็นมิตรกับลูกค้า

13. เพื่อให้ติด Search Engine Optimization SEO

• นักปั่นเว็บมืออาชีพใช้ บล๊อกเพื่อทำ SEO
• สร้างลิงค์จากบล๊อกเข้าเว็บหลัก
• ยิ่งบล๊อกมาก ก็สามารถสร้างลิงค์ได้มากขึ้น

14. สร้างแบรนด์

• สร้างความเป็นผู้นำ
• ดีกว่ามีแค่เว็บไซด์เดียว
• เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าเป้าหมาย long tails, nich market
• เป็นมืออาชีพ

15. เริ่มต้นด้วย

• กำหนดทิศทาง (ชอบสิ่งไหน เขียนสิ่งนั้น ขายสิ่งไหน เขียนสิ่งนั้น)
• ใช้บริการ www.blogger.com
• สำรวจคู่แข่ง (ขู่แข่งเขียนบล๊อกอย่างไร)
• เลือกชื่อให้เหมาะ (สั้น กระชับ จำง่าย)
• จัดเตรียมเนื้อหา (กำหนดทิศทางไปในทางเดียวกัน)
• ตั้งชื่อบทความให้น่าสนใจ ใช้คีย์เวิร์ด แทรกคีย์เวิร์ดให้เนียน มีความหมายชัดเจน
• ชื่อบทความ ไม่ยาวเกินไป สะดุดตา และชัดเจนเชิญชวนให้ผู้อ่านเข้ามาอ่าน
• หมั่นอัพเดทบล๊อก
• เลือกตัวอักษรให้อ่านง่าย

 16. แต่งบล๊อกให้สวย

• แทรกภาพ
• ใช้ Gadget
• กำหนด Label
• ทำ Link
• สร้างลิงค์จากบล๊อกอื่นด้วย Link List
• Feed ผู้อ่าน (http://feedburner.google.com)
• ฝากบล๊อกไว้กับ Social Bookmark (http://addthis.com)
• ติด Email Subscription (http://feedburner.google.com)
• ติด Cbox (http://cbox.ws/) --- Chat Wing
• แลกลิงค์
• โปรโมตใน Social Network
• ใส่ Signature
• ติด Link Banner ให้บล๊อก
• Plug in Like Box จากเพจเฟสบุกด้วย Iframe 

 17. Gadget

• Blog List = แสดงรายชื่อบล๊อกทั้งหมดที่เราชอบ 
• Follwers=แสดงรายชื่อผู้ติดตามบล๊อกของเรา
• Slideshow=เพิ่มภาพสไลด์
• Subscription Link=ระบบสมัครข้อมูลรับข่าวสารได้จากระบบ feed
• Poll=แบบสำรวจความคิดของผู้อ่าน
• List=รายชื่อหนังสือ,ภาพยนต์ หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบ อยากแนะนำ
• Link List=ลิงค์รายชื่อเว็บไซด์ที่น่าสนใจ
• Picture=เพิ่มรูปภาพ
• Adsense=หารายได้จากโฆษณาที่เกียวกับบล๊อก
• Text=เพิ่มข้อความต้อนรับ เงื่อนไข
• HTML/JavaScript=ฝังฟังชั่น
• feed=เพิ่มเนื้อหาด้วยข้อมูล RSS
• Labels=ป้ายกำกับบทความของบล๊อก
• Newsreel=ข่าวจะGoogle
• Video bar=คลิปวีดีโอจาก You Tube
• Logo=โลโก้ของ Blogger
• Profile=ประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับบล็อก
• ฺBlog Achive=แสดงลิงค์ไปยังคลังเก็บบทความเก่า
• Page Header=แสดงชื่อและคำอธิบายของบล๊อก

บริการต่างๆ ของ Google

บริการต่างๆ ของ Google

1. Google Place

• ลงทะเบียนกับ Google Place (http://www.google.com/places)

2. Weblog

• สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้โฆษณาโปรโมทเว็บไซด์ได้

Keyword !!! คีย์เวิร์ด

Keyword !!! ใส่ที่ไหนดี

1. คีย์เวิร์ด ใส่ที่ไหนดี

• Title Tag
• เนื้อหา หน้าแรก
• ลิงค์บทความ
• แทรกในบทความไปเรื่อยๆ
• ใส่คีย์เวิร์ดส่วนหัวและท้าย

2.  หาคีย์เวิร์ดได้จากไหน

• วางแผน คิดคำที่เกี่ยวกับงานหรือธุรกิจ
• สำรวจคีย์เวิรด์คู่แข่ง

3.  คีย์เวริด

• คำที่ถูกค้นหาใน Search Engine มากที่สุด 
• คีย์เวร์ดที่มาจากโดเมน อาจเป็นคีย์เวิร์ดที่ทำเงินได้
• ยิ่งคนค้นหามาก ยิ่งทำเงินได้
• แยกคีย์เวิร์ดหลักและคียเวิร์ดรอง
• ระวังอย่าใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไปในหนึ่งหน้า เพราะบอตจะมองว่า เราเป็นสเปม อาจจะถูกตัดคะแนนการเลื่อนอันดับได้
• เนื่อหาที่มีประโยชน์ ห้ามไปก็อปใครมา ถ้าเขียนเอง เนื้อหาจะไม่เหมือนใคร บอตยิ่งชอบและอยากเข้ามาเยื่ยมชมเว็บไซด์ของเรา

4. Tilte Tag (บนหัวเพจ)

• เนื้อความสั้น ได้ใจความ ไม่น้อยไปไม่ยาวไป
• แทรกในส่วนของเนื้อหาในหน้าแรก ไม่เยอะไป ไม่มากไป 

5. Web Page Title - การเขียน Tiltle

• หากเราสร้างหน้าเว็บใหม่ เราควรเขียน Title หรือการตั้งชื่อให้เอกสารหน้าเพจนั้นๆ ด้วย

6. เขียน Description

• คือการใส่เนื้อหาและรายละเอียดให้กับหน้าเว็บเพจนั้นๆ

7. Meta name = description

•  รายละเอียดของหน้าเว็บ ซึ่งแต่ละหน้าเว็บต้องแตกต่าง เสริจเอ็นจิ้นจะได้เข้าใจว่า หน้านี้เกี่ยวกับอะไร

8. Meta name = keywords

•  คีย์เวิร์ดที่เน้นการจัดอันดับของเสิร์จ เอ็นจิ้น

9. Meta Description Tag

• อธิบายรายละเอียดของเว็บไซด์นั้นหรือเว็บบล็อกของเราว่าเป็นเว็บไซด์หรือเว็บบล็อกเกี่ยวกับอะไร
• ควรผสม Keyword ด้วย
• กระชับ ได้ใจความ 
• ไม่ซ้ำกัน

10. Meta Keywords Tag

• คำสำคัญหรือคำค้นหาเว็บไซด์หรือเว็บบล๊อกของเรา สามารถใส่ได้หลายคำ แต่ละคำให้คั้นด้วยเครื่องหมาย "," เช่น หาแฟนญี่ปุ่น,  แต่งงานกับคนญี่ปุ่น, เรียนภาษาญี่ปุ่น 
• เนื้อหาต้องเป็นเนื้อหาเดียวกันกับเว็บไซด์หรือบล็อกที่เขียน

11. Meta Author Tag

• ชื่อผู้จัดทำ ผู้สร้างเว็บไซด์ ระบุข้อมูลร้านค้า กิจการ เว็บไซด์ว่าเป็นของเรา

12. Meta Copyright Tag

• แสดงชื่อเจ้าของเว็บไซด์ ระบุเนื้อหาว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเรา

4. Niche Keyword

• คีย์เวริดที่ระบุรายละเอียด รุ่น ของสินค้า ยี้ห้อ 

5. Mass Keyword

• ความหมายกว้างๆ เช่น ญี่ปุ่น

6. Misspelling Keyword

• คีย์เวิร์ดที่สะกดผิด

7. Link Keyword

• แทรกลิงค์ไว้กับคีย์เวริด

7. ใช้บริการ Google Keyword Tool

• https://adwords.google.com/o/KeywordTool 
• https://Adwords.google.com/select/KeywordToolExternal) 

8. ติดตั้ง SEOquake

• www.seoquake.com

9. ทำ Sitemap  / ทำแผนผังเว็บไซด์ ให้กับบล๊อก

• www.Blogger.com
• บัญชีของฉัน
• ผลิตภัณฑ์
• เครื่องมือของผู้ดูแลเว็บ
• เพิ่มไซด์
• ใส่ url
• ดำเนินการต่อ
• ส่ง Sitemap
• เพิ่ม ทดสอบแผนผังไซด์

10. Site Navigation

• สร้างลิงค์ภายในเว็บไซด์ที่เราทำ
• ในหน้าเว็บเพจควรมีหน้าลิงค์กลับไปที่หน้าแรกเสมอ
• บอตจะสนุกสนานกับการวิ่งเข้าไปเก็บข้อมูลของเรา

11. Hosting

• เลือก Hosting ที่มีคุณภาพ บอตจะได้อยากมาบ้านเรา

12. Off Page Optimization

• ปรับแต่งให้เรามีลิงค์ที่มีคุณภาพเข้ามาในเว็บไซด์ของเราให้มากที่สุด
• เสริจเอ็นจิ้นจะดูความนิยมในการอ้างอิงลิงค์ของเว็บไซด์ของเรา
• ถ้าลิงค์ที่ส่งมาเป็นลิงค์ที่มีคุณภาพ และเนื้อหาไกล้กัน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

โดเมนเว็บไซต์ / คอร์สเว็บไซต์เพื่อโปรโมทธุรกิจ

ท่านที่ต้องการมาเรียนคอร์ส
เว็บไซต์เพื่อโปรโมทธุรกิจกับไอทีแม่บ้าน
ท่านต้องคิดชื่อโดเมนเพื่อตั้งชื่อเว็บไซต์ของท่านนะคะ

ก่อนตั้งชื่อ ขอฝากเทคนิคไว้นิดว่า...

โดเมนที่ดี เว็บไซด์ที่ดี 
ควร มีชื่อดี ติดหู ติดตา แบบโดนๆๆๆ นะคะ


1.โดเมน = นามสกุลของเว็บไซด์ของเรานะคะ

• สั้น กระชับ ได้ใจ ติดปาก จำได้ ห้ามซ้ำกับชาวบ้าน
• ความยาวไม่เกิน 4 พยางค์
• ทำหน้าที่คล้ายๆ นามสกุล
• เหมือนคีย์เวิร์ดตัวหนึ่ง (คำที่คนทั่วโลกใช้ค้นหามากที่สุด)
• ระวังสินค้าแบรนด์เนม ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ เช่น Louis Vitton (อาจจดได้ตอนแรก แต่หากเจ้าของรู้ อาจโดนฟ้อง)  
• ห้ามจดโดเมนซ้ำกับชาวบ้าน
• คิดไว้หลายๆ ชื่อก็ได้ เผื่อซ้ำจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาใหม่
• จดแล้วเปลี่ยนใหม่ไม่ได้นะคะ เพราะฉนั้นก่อนจดให้คิดนานๆ หน่อยนะคะ
• ตอนนี้บริษัทมีบริการจดโดเมนภาษาไทยแล้ว ไอทีแม่บ้าน ก็มีเว็บไซต์ www.ไอทีแม่บ้าน.com กับเค้าเหมือนกัน ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ เพราะเราเน้นลูกค้ากลุ่มคนไทย ก็ควรใช้โดเมนชื่อไทยนะคะ เพราะจะทำให้ง่ายต่อการค้นหาและง่ายต่อการบอกต่อด้วยค่ะ

 2.ข้อมูลน่ารู้

• .com., co.th.,.biz  

    ใช้ได้กับทุกโดเมนที่ทำ E-Business 

    บริษัท ร้านค้า ยกเว้นมูลนิธิ สมาคม

• .net 

     พี่กับน้อง .com หาก.com ไม่ว่างใช้ .net แทน

• .info

      เว็บไซคต์ หรือบล๊อกที่ให้ข้อมูล ไม่ค้าไม่ขาย

• .org.or.th

      ไม่ค้าไม่ขาย ไม่หาผลกำไร

• .org

      มูลนิธิ หรือสมาคม

• .ac.th

     ใช้กับโรงเรียนต่างๆ ในไทย

• .go.th

      ใช้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล 

ใครสนใจลงเรียนคอร์ส เว็บไซต์เพื่อโปรโมทธุรกิจออนไลน์กับไอทีแม่บ้าน อย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจ้ เจือกส์ เพื่อตรวจสอบชื่อโดเมนของเว็บไซต์ของท่านให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

ไอทีแม่บ้าน คอร์สเว็บไซต์เพื่อการโปรโมทเว็บไซต์